ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรสมุนไพร และมีความต้องการในตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้คุณภาพและปลอดภัย จำเป็นต้องดำเนินการภายใต้ ระบบคุณภาพ ที่ได้มาตรฐานและยอมรับในระดับสากล
ระบบคุณภาพที่โรงงานสมุนไพรควรมี
1. GMP (Good Manufacturing Practice) สำหรับสมุนไพร
เป็นข้อกำหนดพื้นฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้โรงงานผลิตยาสมุนไพรต้องปฏิบัติตาม เพื่อควบคุมตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บ และการควบคุมคุณภาพ
โรงงานที่ผ่านมาตรฐาน GMP จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและหน่วยงานรัฐได้
2. ISO 9001: ระบบบริหารคุณภาพ
เป็นมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพที่เน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) และการตอบสนองความต้องการของลูกค้า
เหมาะกับโรงงานที่ต้องการยกระดับการบริหารจัดการโดยรวม และรองรับการขยายตลาดในอนาคต
3. HACCP และ ISO 22000 (สำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่บริโภคได้)
ใช้สำหรับควบคุมความปลอดภัยทางอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือชาสมุนไพร
ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยจากการปนเปื้อนและสามารถส่งออกได้ง่าย
4. ระบบวิเคราะห์และควบคุมคุณภาพ (QC/QA)
การตั้งแผนและดำเนินการทดสอบคุณภาพวัตถุดิบ-ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และการสอบกลับ (traceability)
ระบบการสอบเทียบเครื่องมือ และวิธีทดสอบที่ได้รับการรับรอง เช่น วิธีวิเคราะห์ที่ได้รับการโอนย้าย (Method Transfer)
ทำไมโรงงานสมุนไพรถึงควรลงทุนในระบบคุณภาพ?
เพิ่มความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ในตลาด
ตอบโจทย์ข้อกำหนดของอย. และข้อกำหนดของคู่ค้าต่างประเทศ
สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยการแสดงถึงมาตรฐานการผลิตที่สูง
สามารถต่อยอดสู่มาตรฐานระดับสากล เช่น PIC/S, WHO GMP